Who am I to you? - Who am I to you? นิยาย Who am I to you? : Dek-D.com - Writer

    Who am I to you?

    พี่เซนเป็นอะไร? ทำไมถึงหายเงียบไปเฉยๆ?

    ผู้เข้าชมรวม

    59

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    1

    ผู้เข้าชมรวม


    59

    ความคิดเห็น


    1

    คนติดตาม


    2
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  17 ต.ค. 57 / 19:52 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    แฮร์รี่คงผิดดเองที่เข้าไปยุ่งกับพี่เซน


    แฮร์รี่คงผิดเองที่คิดไปเองฝ่ายเดียว


    แฮร์รี่คงผิดเองที่คิดว่าพี่เซนแคร์ความรู้สึกแฮร์รี่

    .
    .
    .



    ทั้งหมดมันก็แค่แฮร์รี่คิดไปเองใช่ไหม?









    Writer : Angie
    Twitter : Angie_Puiiz
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ


      อาทิตย์หน้าก็เปิดเทอมแล้วสินะ  หลังจากที่ปิดเทอมไปนานหลายเดือนจนผมรู้สึกเบื่อ  
      ผมอยากเจอเพื่อนๆที่มหาวิทยาลัย  ผมชอบที่จะอยู่กับเพื่อนๆและชอบทำให้เพื่อนมีเสียงหัวเราะเพราะมุขตลกของผม  ถึงแม้ว่ามันจะเป็นมุขที่ห่วยแตกมากก็เหอะนะ





      วันนี้เปิดเทอมวันแรก  ชีวิตนักศึกษาปี 2 ได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว



      ผมรู้สึกตื่นเต้นอย่างบอกไม่ถูก  ที่จะได้เจอเพื่อนๆพร้อมน้าพร้อมตากันซักที ปิดเทอมที่ผ่านมาผมก็ได้เจอแต่ ไนออล  ฮอนแรน  เพื่อนสนิทของผมที่บ้านอยู่ใกล้กัน  
      ส่วน เลียม เพย์น  ช่วงปิดเทอมมันก็ไปทำงานพาร์ทไทม์เก็บเงินเพราะมันอยากจะได้โทรศัพท์มือถือเครื่องใหม่  มันบอกว่าถ้าไอโฟน 6 วางขาย มันก็จะได้มีเงินซื้อเลย




      อ้อ..  ผมลืมแนะนำตัวเองไปได้ยังไงเนี่ย  ผมชื่อแฮร์รี่  ใช่ครับ  แฮร์รี่ สไตล์ส  ผู้ชายผมหยิกที่ทรงเสน่ห์ที่สุดในชั้นปีเลยก็ว่าได้  ฮ่าๆๆ ผมอาจจะเป็นคนหลงตัวเองนิดหน่อยนะ  แต่ก็ไม่ได้ถึงขั้นทำให้ใครหมั่นไส้หรอกครับ  ใครๆก็รักผมทั้งนั้น  ถ้าไม่เชื่อก็ลองมาทำความรู้จักกับผมดูก็ได้นะ ^^





      เริ่มต้นวิชาแรกก็เป็นวิชาหินเลยล่ะครับ  ขึ้นชื่อว่าหินสุดจริงๆรุ่นพี่หลายคนที่ไม่ผ่านวิชานี้แล้วต้องมาลงเรียนซ้ำก็เยอะครับ ผมมาถึงก่อนไนออลกับเลียมเลยเลือกจับจองที่นั่งรอสองคนนั้น เลือกเอาแถวกลางๆก็แล้วกัน จริงๆผมสายตาไม่ดีเท่าไหร่แต่ไม่อยากจะนั่งหน้า ผมกลัวหน้าผมเปียกเพราะน้ำลายอาจารย์ ฮ่าๆๆๆ จะเลือกหลังสุดก็กลัวหลับก่อนได้เรียน เลือกได้ที่นั่งเรียบร้อยแล้วผมก็ไลน์ไปหาไนออลกับเลียมบอกว่าผมนั่งตรงไหน ไม่ลืมที่จะย้ำให้มันรีบๆมา เดี๋ยวสายจะโดนอาจารย์สวดเอา




       8:45 น. ไนออลกับเลียมก็เดินเข้าทางประตูหน้า พยายามมองหาผม ผมก็โบกมือแสดงตัวทันที  มันสองคนรีบเดินตรงมาทางผมทันที เลียมทักผมหลังจากไม่ได้เจอกันหลายเดือนด้วยการตบหัวอย่างแรง

       

      “เป็นไงวะหยอง ไม่เจอนานโคตรคิดถึงว่ะ”
      “ถ้าคิดถึงแล้วมึงจะตบหัวกูแรงขนาดนี้อย่าคิดถึงกูเลย ฮ่าๆๆ”

       

       ส่วนไนออลกับผมก็ไม่ได้ทักทายอะไรกันมากมายเพราะเจอกันบ่อยอยู่แล้ว ปิดเทอมผมก็มีแต่มันแหละครับที่เป็นเพื่อนไปดูหนังไปกินข้าว ผมเป็นคนชอบดูหนังและชอบทานของหวานมากๆเลยทีเดียว เรียกได้ว่าติดน้ำตาลเลยล่ะครับ ส่วนไนออลมันชอบกินทุกสิ่งอย่างบนโลกเลยแหละ เอเวอรี่ติงจิงกะเบลที่จัดว่าเป็นอาหารบนโลกนี้มันกินหมด  ทักทายกันเสร็จสรรพไนออลกับเลียมก็นั่งขนาบข้างผมและมีเพื่อนๆคนอื่นมานั่งในแถวเดียวกัน ก็นั่งคุยกันถามข่าวคราวความเป็นไปของเพื่อนๆแต่ละคนตามประสาคนไม่ได้เจอกันนานระหว่างรออาจารย์เข้าสอน

       

       


       

      นาฬิกาบอกเวลา 9:00 น. อาจารย์ประจำวิชาเดินเข้ามาทางประตูหน้าด้วยหน้าตายิ้มแย้ม
      ซึ่งต่างไปจากคำล่ำลือที่ผมเคยได้ยินมาสำหรับความโหดของอาจารย์ท่านนี้ เห็นอย่างนี้ผมก็ค่อยสบายใจหน่อย คิดว่ามันน่าจะเป็นแค่ข่าวลือแหละนะ

      นี่เหรอวะอาจารย์ที่เขาว่าโหดนักโหดหนา” เลียมพูดขึ้น
      “มึงเงียบไปน่ะเลียม” ไนออลสวนขึ้นมาทันที โดยมีผมนั่งคั่นกลางระหว่างคู่กัดทั้งสอง

       

       
       

      “สวัสดีค่ะนักศึกษาทุกคน เปิดเทอมวันแรกเป็นยังไงกันบ้าง?”

        อาจารย์เริ่มต้นด้วยการทักทายอย่างเป็นกันเอง  ทุกคนต่างก็ตะโกนคำตอบของตัวเองออกไป  ซึ่งแน่นอนว่าอาจารย์ไม่มีทางแยกเสียงได้ว่าใครตอบไปว่ายังไง


      “ปิดเทอมไปนาน คิดว่าสมองเราคงปลอดโปร่งโล่งสบายดีเนอะ งั้นเรามาเริ่มเรียนกันเลยดีมั้ยคะ

      “เหยดดด เรียนเลยหรอวะ วันแรกน่าจะแนะนำรายวิชาก็พอป้ะ?” เลียมพึมพำพอที่ผมกับไนออลจะได้ยิน

      “ส่วนรายละเอียดของรายวิชานั้นอาจารย์จะแจกเอกสารให้เอาไปดูกันเอาเอง เกณฑ์การตัดเกรดก็ตามเอกสารเลยนะคะ”

       



      จากนั้นอาจารย์ก็เริ่มเปิดพาวเวอร์พ้อยท์ที่เตรียมมาสำหรับการสอนในวันนี้ อาจารย์เริ่มสอนไปประมาณ 30 นาที เสียงลูกบิดจากประตูหน้าก็ดังขึ้น..


      “ขออนุญาตครับอาจารย์” เสียงจากบุคคลที่เปิดประตูเข้ามาระหว่างที่อาจารย์สอน
      “รู้มั้ยว่าเวลาเรียนเริ่มกี่โมง?” อาจารย์ถามขึ้นด้วยสีหน้าเย็นชา
      “ทราบครับผม”
      “เธอลงเรียนวิชานี้หลายรอบแล้วนะ น่าจะรู้ว่าอาจารย์ไม่ชอบคนไม่ตรงต่อเวลา”
      “จะไม่ทำอีกแล้วครับ”
      “ดี เชิญ” สิ้นเสียงอนุญาตของอาจารย์ ชายหน้าหนวดนัยต์ตาแขกก็เดินเข้ามาในห้องเรียน ตามด้วย
      ชายหน้าหนวดอีกคนซึ่งตัวเล็กกว่านิดหน่อย

       

       

       

      “สองคนนี้โกนหนวดไม่เป็นหรอวะ?” ผมพึมพำกับตัวเอง
      “มันเป็นสไตล์ของพี่เขาเว้ยย” เลียมได้ยินสิ่งที่ผมพึมพำ มันก็เสือกขึ้นมาทันที
      “พี่ไหน สองคนนี้รุ่นพี่เราหรอวะ ปีไหน?” ผมถามด้วยความไม่รู้
      “แฮซ มึงไปอยู่ไหนมา นั่นพี่ปี
      5 ที่ฮ็อทๆไง” ไนออลพูดขึ้น
      “เออ นี่กูได้ยินว่าพี่เขาติดอีกแค่วิชาเดียวก็จบแล้วนะ” เลียมเสริม
      “แน่จริงทำไมไม่จบ
      4 ปีล่ะ” ผมพูดลอยๆหลังจากละสายตาจากบุคคลที่เพิ่งเข้ามาในห้องทั้งสองคน

       

       

       

      “ถ้ามันง่าย พี่ก็คงไม่ต้องมานั่งเรียนหลายรอบ” เสียงหนึ่งดังขึ้นจากด้านหลังผม 
      ผมรีบหันไปมองต้นเสียงทันที ทำได้แค่ยิ้มเจื่อนๆตอบกลับไปเท่านั้น
      จากนั้นอาจารย์ก็เริ่มสอนต่อไป  ระหว่างที่นั่งเรียนนั้นผมรู้สึกเหมือนมีคนกำลังเล่นกับเส้นผมอันหยิกหยอยของผม เลยหันหลังไปดูด้านหลังเจอพี่แขกหน้าหนวดเลิกคิ้วใส่ด้วยสีหน้าไร้อารมณ์แต่ผมก็ไม่ได้ใส่ใจอะไร

       

       

       

      วิชาแรกผ่านไปแล้วววว ถึงเวลาอาหารเที่ยงผมสามคนก็ไปหาอะไรกินกัน วันนี้มีเรียนต่อตอนบ่ายเลยกินที่โรงอาหารแถวนี้ล้ะกัน ระหว่างที่นั่งกินข้าวพวกผมก็นั่งคุยกันไปเรื่อยเปื่อย จนไนออลถามขึ้น

      “แฮซ มึงไม่รู้จักพี่เซนกับพี่ลูจริงๆหรอ?”
      “อือ ก็ไม่รู้จริงๆ ทำไมวะ?” ผมตอบตามความจริง
      “พี่เขาโคตรฮ็อทนะเว้ย พี่คนที่หน้าแขกๆอ่ะ เซน มาลิก ส่วนคนที่ตัวเล็กกว่านั่นพี่ ลูอิส ทอมลินสัน” เลียมอธิบาย
      “ขนาดพี่ลูมีแฟนแล้วนะมึง สาวๆยังกรี๊ดอ่ะ แฟนแกก็สวยชิบหาย”
      ไนออลพูดเสริมต่อจากเลียม
      “อ้าว แล้วพี่เซนอะไรนั่นล่ะ ไม่มีแฟนหรอ?” ผมถามเพื่อต่อบทสนทนา
      “กูยังไม่เคยเห็นพี่แกคบใครเป็นแฟนจริงจังนะแต่เด็กในสังกัดแกโคตรเยอะ อีกอย่างกูได้ยินว่าพี่เขาเป็นคนใจแข็งนะมึง เป็นพวกซึนอ่ะ ไม่ว่าหญิงหรือชายก็ทนพี่แกไม่ค่อยได้” เลียมนี่มันรู้รอบด้านจริงๆ

      “หญิงหรือชาย หมายความว่า?” ผมสงสัยในประโยคของเลียม
      “ไบเว้ยไบ แกได้หมด” ไนออลตอบคลายความสงสัยของผม
      “พี่เซนนี่ฮ็อทจริงเหรอวะ?” ผมถามขึ้น พร้อมยิ้มมุมปาก
      “หยอง  อย่าบอกนะว่ามึงจะเช็คเรตติ้ง?” เลียมอ่านความคิดผมได้สมกับเป็นเพื่อนสนิทที่คบกันมานาน
      “ถ้ามึงเจ็บมานี่พวกกูไม่รับผิดชอบนะ” ไนออลมองหน้าผมด้วยท่าทีเบื่อหน่าย
      “เออน่า” ผมตอบกลับไปแบบผ่านๆ

      “มึงไม่ควรเสี่ยงกับสิ่งที่ควบคุมไม่ได้ อย่างเช่น ความรู้สึก” เลียมเตือนผมด้วยความหวังดี


      หลังกินข้าวเที่ยงเสร็จก็รอเรียนวิชาต่อไป บ่ายโมงตรง เป็นวิชาที่ไม่ได้หนักหนาสาหัสอะไร



      .
      .
      .

       




      ผ่านไป 1 สัปดาห์แล้วสำหรับการเปิดภาคเรียน
      เสาร์อาทิตย์นี้ผมจะไปเล่นเกมส์ที่หอเลียม นัดไนออลไว้แล้วว่าให้มันมารับผมวันเสาร์
      11 โมง






      10:45 น. ไนออลไลน์มาบอกว่ารอที่หน้าหอผมแล้ว
      ผมก็รีบลงไปหามันทันทีและไม่ลืมที่จะหยิบเสื้อแขนยาวเพื่อใส่กันแดด ก็ไนออลมันแว๊นซ์มอเตอร์ไซค์มารับผม ถ้าไม่หาอะไรมาปกปิดผิวก็แย่เลย ผมเห็นไนออลสตาร์ทรถรอก็รีบก้าวขึ้นรถทันที



      “มึงจะรักษาผิวพรรณไปไหนเนี่ย ห่อยังกะมัมมี่” ไนออลพูดเชิงประชด
      “เออน่ะ ขับๆไป” ผมตอบปนหัวเราะน้อยๆ




      .
      .
      .



      มาถึงหอเลียม  ผมกับไนออลก็จัดการโทรสั่งพิซซ่าทันทีโดยไม่ถามความเห็นเลียมเลย รายนั้นมันกินอะไรก็ได้  พอพิซซ่ามาส่งพวกผมก็กินไปด้วยเล่นเกมส์ไปด้วย  วันนี้ขี้เกียจกลับหอผมกับไนออลเลยขอค้างที่หอเลียมเลยแล้วกัน  อาบน้ำแล้วก็ยืมเสื้อผ้าเลียมมาใส่ก่อน  กว่าจะได้ลงที่นอนก็ปาไปตีหนึ่งแล้ว  เลียมเดินไปปิดไฟก่อนจะเดินตรงมายังเตียงนอน




      “หยอง เรื่องพี่เซนอ่ะมึงเอาจริงเหรอ?” เลียมถามขึ้น
      “ทำไมวะ? ยิ่งมึงถามบ่อยๆนี่กูยิ่งรู้สึกท้าทายนะเว้ยย” ผมตอบกลับแบบติดตลก
      “กูได้ยินเรื่องพี่เขามาเยอะนะ ทำคนเจ็บมาเยอะ สุดท้ายแกก็ทำเฉยชาใส่เหมือนคนไม่รู้จักกันมาก่อน” เลียมเล่าสิ่งที่เคยได้ยินมาเกี่ยวกับพี่เซน
      “แล้วถ้ามึงเกิดชอบพี่เขาจริงๆแต่พี่เขาไม่อะไรกับมึงล่ะ?” ไนออลถามด้วยน้ำเสียงเรียบ
      “กูก็แค่อยากลองดูก็แค่นั้น” ผมตอบสั้นๆ

       
       


      สัปดาห์ที่สองของการเปิดภาคเรียน วันนี้มีวิชาที่ต้องเจอพี่เซนหน้าหนวด ผมเตรียมแผนไว้สำหรับวันนี้แล้วว่าจะต้องทำยังไงกับพี่หนวดนั่น  หึหึ




      พอใกล้ถึงเวลาเรียน  พี่เซนกับพี่ลูเดินเข้ามาในห้องเรียนพร้อมกันเหมือนสัปดาห์แรกที่ผมเจอแต่ดีที่วันนี้ไม่สาย  สองคนนั้นเลือกที่จะนั่งแถวด้านหลังผมกับเพื่อนๆอีกแล้ว  นั่งเรียนไปเรื่อยๆจนอาจารย์ให้พัก
      10 นาที ผมหันไปหาพี่เซนเพื่อทักทายตามแผน

       




      “พี่ใช่พี่เซนรึเปล่าครับ? ” ผมทักทายด้วยรอยยิ้ม
      “ใช่ครับผม รู้จักพี่ด้วยเหรอ?” ตอบแบบเป็นมิตรซึ่งสวนทางกับหน้าตามากๆ
      “แหม ใครจะไม่รู้จักพี่ล่ะ ใครๆก็รู้ว่าพี่ฮ็อท”
      พี่ลูที่นั่งข้างๆพี่เซนก็ยิ้มกว้างทันทีหลังจากได้ยินที่ผมพูด
      “พูดดีนะเราอ่ะ ชื่ออะไร?” พี่ลูถามผม
      “แฮร์รี่ สไตล์ส ครับ” ผมตอบด้วยน้ำเสียงสดใส  พยายามทำตัวให้น่ารักที่สุดในชีวิต

       

       

       

      “ได้ยินว่าพวกพี่ลงเรียนวิชานี้รอบที่3แล้ว ผมเลยคิดว่าน่าจะขอคำปรึกษาจากพี่ๆได้
      ผมขอเบอร์ติดต่อหน่อยได้มั้ย?” ผมตีเนียนขอเบอร์พี่แขก
      “เอาเบอร์พี่ไปนะ เซนมันไม่ค่อยพกโทรศัพท์” พี่ลูเสนอจะให้เบอร์ผม
      “ก็ได้พี่แต่ผมกลัวแฟนพี่จะหึงอ่ะดิ ยังไงก็ขอเบอร์พี่เซนไว้เผื่อล้ะกันนะพี่นะ” ผมทำสายตาอ้อนวอน ยืนยันจะเอาเบอร์พี่เซนให้ได้ ซึ่งเพื่อนสองคนของผมที่นั่งดูเหตุการณ์ตั้งแต่แรกก็หัวเราะขึ้นมาเบาๆ

       

      ผมละสายตาจากเพื่อนทั้งสองคนแล้วหันไปหาพี่เซนอีกครั้ง
       

      “เอามือถือมาดิ เดี๋ยวพี่กดเบอร์ให้” พี่เซนตอบกลับมาพร้อมรอยยิ้ม โอยย ผมจะละลายนะพี่มายิ้มแบบนี้อ่ะ  ยิ่งมองใกล้ๆก็ยิ่งน่าหลง
       

      ผมยื่นมือถือให้พี่เซนกดเบอร์โทร พอกดเสร็จก็ส่งคืนให้ผม
      “ยิงเข้าเบอร์พี่ด้วยนะ ตอนนี้เลย” ผมยิ้มน้อยๆพร้อมพยักหน้าเป็นการตอบรับ
      จากนั้นก็ยิงเข้าเบอร์พี่เซนจนกระทั่งแกเห็นเบอร์โชว์ขึ้นที่หน้าจอ

      “เบอร์นี้นะ?” พี่เซนชูมือถือให้ผมเช็คว่าเป็นเบอร์ของผมแน่แล้วก็กดตัดสายไป ผมไม่ลืมที่จะยื่นมือถือให้พี่ลูกดเบอร์แกให้แล้วก็ยิงไปเบอร์แกเช่นกัน

       

       
       

      วันนี้แผนขั้นแรกสำเร็จแล้ว   ผมได้เบอร์พี่เซนมาแล้วแต่แน่นอนว่าผมยังไม่โทรไปหรอก ขืนอยู่ๆโทรไปแบบไม่มีอะไร  พี่เซนก็คงคิดว่าผมไปเสนอตัวน่ะสิ  ผมซิงค์เบอร์โทรศัพท์เข้ากับรายชื่อเพื่อนในไลน์แล้วก็เห็นชื่อพี่เซนโชว์ว่าแกก็เล่นไลน์   ซึ่งแน่นอนว่าผมรู้อยู่แล้วว่าแกเล่นไลน์   เห็นดังนั้นผมก็แอดไลน์พี่เซนไปทันที ไม่ถึง 5 นาทีแกก็รับแอด ไหนพี่ลูบอกว่าพี่เซนไม่ค่อยพกมือถือไง ทำไมรับแอดเร็วจัง?




      ผมตื่นเต้นมากแต่ต้องเก็บอาการไว้ก่อน ทักทายด้วยการส่งสติ๊กเกอร์สวัสดีไป
      แล้วอีกฝ่ายก็ตอบกลับมาทันที

       

       
       

       -LINE-
       

      หวัดดีคับ
       พี่เซนนนนนน
      ใครเนี่ย?
      แฮร์รี่เองพี่เซน
      อ๋อ แล้วแอดพี่มาได้ไงครับ
      แฮร์รี่ซิงค์เบอร์กับไลน์ แล้วมันเด้งชื่อพี่เซนขึ้นมา แฮร์รี่เลยแอด
      ครับผม แล้วกินอะไรรึยังเนี่ย?

      ยังไม่กินเลย นี่กำลังหิวเลยอ่ะ’  ซึ่งจริงๆผมกินข้าวเย็นไปแล้วเรียบร้อย

      พี่ก็หิวเหมือนกัน ไปหาไรกินมั้ย?เข้าแผนผมสิครับพี่เซน
      กินไรดีอ่ะ พี่เซนมารับแฮร์รี่ที่หอก่อนแล้วค่อยคิดล้ะกันนะ
      หอแฮร์รี่อยู่ไหนล่ะ พี่จะไปรู้ได้ยังไง
      เดี๋ยวแฮร์รี่บอกทาง เบอร์ก็มีแล้วหนิ โทรมาก็ได้ถ้ากลัวมาไม่ถูก
      ครับๆงั้นเดี๋ยวพี่ไปรับนะ
      ‘ 
       ’

       




      ผมแปลกใจนิดหน่อยว่าทำไมมันง่ายอย่างนี้   พี่เซนเป็นคนที่ไปไหนมาไหนกับคนที่เพิ่งรู้จักง่ายดายขนาดนี้เลยหรอ แต่สิ่งหนึ่งที่ผมค้นพบจากการคุยไลน์เมื่อกี้ผมรู้สึกว่าพี่เซนไม่ได้น่ากลัวเหมือนหน้าตาเลยนะ >.<





      ตอนนี้ก็ 4 ทุ่มแล้ว ผมนั่งรอพี่เซนที่โซฟาชั้นล่างของหอ ซักพักมีสายโทรเข้า


      *P’ZAYN*

      ฮัลโหลพี่เซนนนน”
      “แฮร์รี่  พี่มาถึงทางสามแยกแล้วจะให้พี่เลี้ยวไหน?”
      “เลี้ยวขวาตรงมาเรื่อยๆแล้วหอแฮร์รี่จะอยู่ด้านซ้ายจ้ะ

       




      พี่เซนมาถึงหอก็จอดรถลงมาหาผม โหหห พี่เซนขับรถยนต์ด้วย เท่ห์อ่ะ

      “ป่ะ  ไปหาอะไรกินกัน” พี่เซนพูดขณะเดินมาใกล้จุดที่ผมนั่ง

      พี่เซนหยุดตรงหน้าโซฟาที่ผมนั่งแล้วยิ้มให้อย่างอบอุ่น ทำเอาผมตื่นเต้นแทบหายใจไม่ทัน  แต่ก็ต้องเก็บอาการแบบสุดชีวิต วันนี้พี่เซนใส่เสื้อแขนสั้น ผมสังเกตุเห็นรอยสักที่แขนของพี่เซนด้วย เพิ่งรู้นะเนี่ยว่ามีรอยสักเยอะขนาดนี้  เป็นพวกชอบความรุนแรงหรือเปล่าเนี่ย  ไม่ใช่ว่าผมทำอะไรให้ไม่พอใจหน่อยแล้วฆ่าผมหมกป่าข้างทางนะ

       



       

      “พี่เซนอยากกินไรอ่ะ แฮร์รี่ตามใจพี่เซนเลย” จริงๆคือผมอิ่มจนไม่อยากจะกินอะไรเลยต่างหาก
      “เอางั้นเหรอ?” พี่เซนถามพร้อมกับยิ้มให้ผม ผมพยักหน้าเป็นการตอบรับ
      “งั้นเดี๋ยวพี่พาไปกินโจ๊กล้ะกันเนอะ ง่ายดี”
      “ได้เลยยยย” 

       

       
       

      ระหว่างที่นั่งกินโจ๊กกัน ผมกับพี่เซนก็พูดคุยแลกเปลี่ยนเรื่องราวของกันและกันไปเรื่อยๆ
       พอกินเสร็จพี่เซนก็มาส่งผมที่หอ

      “อ่ะ  ถึงแล้วครับน้องแฮร์รี่”
      “ขอบคุณครับพี่เซน ฝันดีนะ บ๊ายบายยย”  ผมลงรถมาด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม

       

       

       

       
      เซนออกมากินข้าวกับลูอีเป็นปกติเช่นเคย  แต่ที่แปลกไปคือเซนเอาแต่จ้องมือถือแล้วยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ทุกครั้งเวลาที่มองจอโทรศัพท์

      “มึงเป็นไรมากป่ะเนี่ยเซน?” ลูอีถามขึ้นด้วยอารมณ์สงสัยปนตลกกับท่าทีของเพื่อน
      “เป็นอะไรวะ?” เซนเงยหน้าจากจอมือถือมองเพื่อนด้วยความสงสัย
      “มึงติดมือถือตั้งแต่เมื่อไหร่  เมื่อก่อนกูไลน์ไปเป็นอาทิตย์กว่าจะเปิดอ่าน” ลูอีพูดติดตลก
      “กูคุยไลน์กับแฮร์รี่” เซนตอบแล้วก้มลงมองหน้าจออีกครั้ง
      “กูนึกแล้วเชียว คิดไว้ไม่มีผิด  มึงมันเสือจอมเต๊าะ” ลูอีพูดขึ้นอย่างรู้ทัน
      “เด็กมันเริ่มก่อน” เซนยังคงก้มมองจอมือถือพร้อมรอยยิ้มบนในหน้า

       

       

       
       

      ผ่านไป 3 สัปดาห์ตั้งแต่วันที่ผมเริ่มคุยกับพี่เซนผ่านไลน์  จากวันนั้นผมก็คุยไลน์กับพี่เซนตลอดและพี่เซนมารับผมไปกินข้าวเย็นทุกวัน  ผมคิดว่าผมเริ่มรู้สึกดีกับพี่เซนขึ้นเรื่อยๆและผมก็คิดเอาเองว่าพี่เซนก็คงรู้สึกดีกับผมเหมือนกัน


       



      วันนี้วันศุกร์แล้ว ผมนั่งเรียนช่วงบ่ายกับเลียมและไนออล  แต่วันนี้เลียมพาเด็กผู้หญิงมาด้วย  น่าจะเป็นเด็กปี 1 ที่มันไปเต๊าะมาแล้วลากเขามานั่งเรียนด้วย ขณะที่นั่งเรียนผมรู้สึกได้ว่าโทรศัพท์ที่กระเป๋ากางเกงสั่นเลยล้วงออกมาดู  ซึ่งผมรู้อยู่แล้วว่าเป็นการติดต่อจากใคร  ผมเปิดไลน์พร้อมกับยิ้มกว้าง

       


       

       -LINE-

      ทำไรอยู่ครับแฮร์รี่
      เค้าเรียนอยู่พี่เซน
      อ๋ออ
      พี่เซนมีอะไรรึเปล่า?
      ไม่มีอะไร  แค่อยากบอกว่าคิดถึง
      พี่เซนโกหก  พี่เซนก็บอกงี้กับทุกคนแหละ ชิชิ
      ไม่ได้โกหกคร๊าบบบ คิดถึงจริงๆ
      ไม่เชื่อ
      ไปเรียนไปเด็กน้อย
      งั้นเดี๋ยวเรียนเสร็จเค้าทักไปนะ จุ๊บ
      ครับผม  จุ๊บเหม่ง






       เรียนเสร็จก็ 16:00 น. แล้ว

      “ช่วงนี้ไม่ได้ไปนั่งร้านกาแฟกันเลยว่ะ วันนี้ไปป่ะ?” ไนออลเสนอ
      “เออว่ะ นานจริงด้วย ไปๆๆ แต่กูขอพาน้องโซเฟียไปด้วยนะ” พูดจบเลียมก็โอบไหล่เด็กใหม่ของมันทันที
      “ได้ๆอยากกินเค้กเหมือนกัน  คิดถึงช็อคโกแลตเย็นร้านประจำของพวกเรา แต่เดี๋ยวกูบอกพี่เซนก่อนนะ” เลียมกับไนออลหันมองหน้ากันด้วยความสงสัย
      “มึงจะบอกพี่เซนทำไมแฮซ  มึงไปถึงขั้นไหนกันแล้ว?” ไนออลถามด้วยความสงสัย
      “ก็ปกติพี่เซนจะมารับกูไปกินข้าวเย็นด้วยกันทุกวัน  แล้วก็คุยกันทุกวันอ่ะ” ผมตอบแบบไม่มีอะไรต้องปิดบัง

       


       

      -LINE-

      พี่เซนนนน วันนี้แฮร์รี่คงไม่ได้กินข้าวเย็นด้วยนะ
      ทำไมล่ะ จะไปไหน
      แฮร์รี่มีนัดกับเพื่อนฮะ
      โอเคครับ งั้นกลับถึงหอแล้วทักไลน์พี่มาด้วยนะ
      อะเคร เค้าไปกับเพื่อนก่อนนะ

       

       

       


       

      ทันใดนั้นเลียมก็แย่งโทรศัพท์จากมือผมไปเปิดดูข้อความที่ผมคุยกับพี่เซน  สีหน้าของเลียมแสดงออกอย่างชัดเจนว่ามันช็อค

      “มึงแน่ใจนะว่ามึงคุยกับพี่เซนหน้าหนวดคนนั้น” เลียมถามทั้งๆที่ยังไม่ละสายตาจากโทรศัพท์ของผม
      “ก็เออดิวะ ทำไม?”  ผมถามอย่างไม่เข้า
      “พี่เซนทำไมคุยกับมึงได้มุ้งมิ้งอะไรขนาดนี้เนี่ย  ขัดกับหน้าตาและบุคลิกที่กูเห็นมาก” เลียมยื่นโทรศัพท์คืนให้ผมพร้อมกับหัวเราะเบาๆ

       

       


       

      มาถึงร้านกาแฟเจ้าประจำ  พวกเราก็เลือกที่นั่งที่คิดว่ามุมสวยและพอสำหรับพวกเรา 4 คน
      หลังจากสั่งเครื่องดื่มกับเค้ก รอซักพักพนักกงานก็มาเสิร์ฟ

      “เห้ยๆ ถ่ายรูปกันๆๆอัพเฟซบุ๊กนิดนึง” ผมหยิบมือถือขึ้นมาถ่ายรูปเซลฟี่พวกเราทั้ง
      4 คน
      “อัพเสร็จแล้ว กินได้ ลงมือออ” ผมลากเสียงยาว



      Zayn Malik commented on your photo

      Zayn Malik: น่ารัก น่ากิน
      Harry Styles: @Zayn Malik อะไรน่ารัก อะไรน่ากิน
      Zayn Malik: คนหัวหยองน่ารัก เค้กน่ากิน

       

       

      ผมวางโทรศัพท์ไว้ข้างๆตัวหลังจากอ่านและตอบคอมเม้นท์เสร็จ ใบหน้าอมยิ้มตลอดเวลาที่อยู่ร้านกาแฟ

      หยอง มึงเล่ามาให้หมดเลย  เรื่องมึงกับพี่เซน” เลียมพูดเชิงออกคำสั่ง
      “เออ  ไปถึงไหนกันแล้วไม่รายงานพวกกูเลย” ไนออลแสดงความอยากรู้ขึ้นมาอีกคน

      ผมยิ้มอย่างมีความสุขให้กับเลียมและไนออล รวมถึงโซเฟียเด็กใหม่ไอ้เลียมด้วย

      “ก็อย่างที่บอก พี่เซนมารับไปกินข้าวเย็นทุกวัน ระหว่างวันก็คุยไลน์กันตลอด ตอนกลางคืนก็เหมือนกัน”
      “มึงคุยระดับไหน?” เลียมถาม
      “ก็มีบอกคิดถึงกัน มีบอกจุ๊บ บอกฝันดีอะไรเงี้ย” ผมตอบด้วยท่าทีเขินอาย
      “แฮซ กูว่ามึงชอบพี่เขาจริงๆแล้วล่ะแบบนี้” ไนออลมองผมด้วยสีหน้าอมยิ้ม
      “แต่กูว่าพี่เขาก็ดีอ่ะ เหมือนใจดีกับกูมากเลยนะ แบบพาไปโน่นไปนี่ตลอด” ผมอมยิ้ม
      “กูได้ยินว่าแรกๆพี่แกก็ดีหมดแหละ  หลอกให้เหยื่อตายใจ แล้วพี่แกก็จะชิ่ง” เลียมพูดด้วยสีหน้าจริงจัง
      “กูจะพยายามห้ามใจ ตั้งสติดีดีล้ะกัน” ผมตอบเพื่อคลายความกังวลของเพื่อนที่เป็นห่วงหัวใจดวงน้อยๆของผม
      “ทำได้ก็ดีเว้ยย กูเป็นห่วงมึง” เลียมพูดพร้อมกับส่งยิ้มบางๆให้ผม

       

       


       

      -LINE-

      เสาร์นี้ไปดูหนังกันมั้ย?
      ไปๆๆแฮร์รี่ชอบดูหนัง
      เดี๋ยวพรุ่งนี้พี่ไปรับ 11 โมงนะ ไปกินข้าวกัน เสร็จแล้วค่อยไปดูหนัง
      โอเคค๊าบบบบ
      ไปนอนได้แล้วไป เดี๋ยวพรุ่งนี้ตื่นสาย
      แฮร์รี่คิดถึงพี่เซนนะ  วันนี้ไม่ได้เจอพี่เซนเลย
      พี่ก็คิดถึงหยองน้อยครับ
      เค้าไปนอนแล้วนะ  ฝันดีครับพี่เซน
      ฝันดีครับ
      ชุ๊บุ
      ชุ๊บุครับแฮร์รี่








      เที่ยงพี่เซนพามากินไก่ทอดด้วย

      “พี่เซนรู้มั้ยว่าคนที่ไม่รู้จักพี่เซน  มีแต่คนบอกว่าพี่เซนน่ากลัว” ผมพูดขึ้นขณะกำลังหั่นไก่ทอด
      “ทำไมล่ะ?” พี่เซนเงยหน้าจากจานอาหารตรงหน้าแล้วยื่นหน้ามาใกล้ผมด้วยสีหน้าเรียบเฉย
      “ก็พี่เซนไว้หนวดไว้เคราแถมไม่ค่อยยิ้มให้ใคร ที่สำคัญรอยสักพี่เซนเยอะมาก” ผมเอนตัวไปชิดพนักเก้าอี้เพื่อให้ห่างจากพี่เซน
      “แล้วแฮร์รี่กลัวพี่มั้ย?” พี่เซนเอนตัวกลับไปที่เก้าอี้ของตัวเองแล้วเริ่มกินไก่ทอด
      “ไม่กลัวหรอก พี่เซนน่ารักแถมใจดีจะตาย” พี่เซนยิ้มพร้อมกับส่ายหัวเบาๆหลังจากได้ยินคำตอบของผม

      “แฮร์รี่อยากให้พี่โกนหนวดมั้ยล่ะ? จะได้ไม่น่ากลัว” พี่เซนถามผมด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม
      “แฮร์รี่แล้วแต่พี่เซนเลย อะไรที่พี่เซนชอบเค้าก็ชอบด้วย แต่ลองโกนก็ดีนะแฮร์รี่ไม่เคยเห็นพี่เซนตอนไม่มีหนวด” ผมตอบแบบไม่ได้คิดอะไร








       

      ระหว่างที่นั่งกิน ผมก็เอาแต่จ้องหน้าพี่เซนอย่างไม่ละสายตา คนๆนี้ยิ่งมองยิ่งน่าหลงไหล ละสายตาไม่ได้เลยจริงๆ
      “แอบมองขนาดนี้เดี๋ยวก็จับจูบปากซะหรอก” พี่เซนพูดขึ้นก่อนจะเงยหน้ามองผม
      “พี่เซน
      !!” ผมขึ้นเสียงเพื่อกลบเกลื่อนความเขินอายของตัวเอง แล้วแสร้งหันมองไปทางอื่น
      “หึหึ” เสียงพี่เซนหัวเราะในลำคอ






      พอกินเสร็จเราก็ไปซื้อตั๋วหนัง แล้วไปเดินเล่นในห้างรอเวลาหนังฉาย
      ก่อนเข้าโรงหนังก็ไม่ลืมที่จะซื้อป็อปคอร์นกับน้ำอัดลมด้วย  ระหว่างที่ดูหนังผมก็ป้อนป็อปคอร์นพี่เซนเพื่อเป็นการเอาใจ  เรากินน้ำแก้วเดียวกัน  หลอดเดียวกัน  ผมรู้สึกเหมือนได้จูบพี่เซนทางอ้อม  
      >///<

       

       

      “เย็นนี้กินอะไรดีครับแฮร์รี่”
      “ไม่รู้อ่ะพี่เซน อะไรก็ได้”
      “น่ารักจัง อะไรก็ได้” ผมอยากจะละลายไปกับคำพูดของพี่แขกจริงๆ ถ้าไม่ได้มารู้จักก็คงไม่รู้ว่าพี่เซนเป็นคนที่ทำให้คนอื่นใจละลายเอาได้ง่ายๆแบบนี้   เห็นทีแรกนึกว่าจะเป็นพวกดิบเถื่อนเหมือนหน้าตาซะอีก



      ระหว่างเดินข้ามถนน ผมอยากจะจับมือพี่เซนมากแต่ก็ไม่เคยจับ
      เวลาข้ามถนนพี่เซนจะประคองแขนผมเบาๆเป็นสัญญาณว่าเดินข้ามได้แล้ว
      บางทีก็ดึงแขนเสื้อผม  ผมเดาเอาเองว่าพี่เซนก็คงไม่กล้าจับมือผม  >.<

      .
      .
      .
      .

       





       

      เซนนัดกับลูอีว่าวันนี้จะไปเดินเลือกซื้อแผ่นซีดีเพลงด้วยกัน
       

      “ไอ้เชี่ยเซนนน  อะไรเข้าฝันมึงให้โกนหนวดเนี่ย!? ” ลูอีถามขึ้นทันทีที่เจอหน้าเซน
      “กูก็แค่อยากลองเปลี่ยนลุค โกนแล้วเดี๋ยวก็ยาวใหม่ได้น่ะ” เซนตอบเสียงนิ่ง
      “คุยกับเด็กแล้วมึงถึงขั้นลงทุนโกนหนวดเอาใจเด็กขนาดนี้เลยเหรอ? หึหึ” รู้ทันสมเป็นเพื่อนกับเซนมานาน
      “กูไม่ได้เอาใจใครทั้งนั้นเว้ย” เซนพยายามหันหน้าไปทางอื่นเลี่ยงที่จะสบตาเพื่อนสนิท

      “ มึงกับแฮร์รี่นี่ยังไงเซน?” ถามขึ้นระหว่างเลือกซื้อแผ่นซีดี
      “อะไร?”เซนละสายตาจากซีดีมามองเพื่อนที่ยืนข้างๆ
      “มึงเปลี่ยนไปเยอะรู้ตัวมั้ยเซน? กูไม่เห็นมึงคุยกับใครแล้วเป็นแบบนี้” ลูอียิ้มมุมปากพร้อมกับชำเลืองมองเพื่อน
      “ยังไง?” สายตายังคงจับจ้องแผ่นซีดีที่ถืออยู่
      “เดี๋ยวนี้มึงใจอ่อนกว่าเมื่อก่อนเยอะ  แถมติดมือถือยิ่งกว่าอะไร”
      “ก็เด็กมันอ้อน” เซนพยายามตอบกลับด้วยท่าทีปกติ
      “กูดูท่าทางมึงแล้วเด็กมันคงอ้อนเก่งน่าดูสินะ” ลูอีพูดพร้อมกับหัวเราะน้อยๆ

       

      .
      .
      .
      .
      .

       

       

       

       

       


      ผมกับพี่เซนเริ่มสนิทสนมกันมากขึ้นเรื่อยๆแล้วความรู้สึกที่ผมมีต่อพี่เซนก็มากขึ้นเรื่อยๆเหมือนกัน
      ผ่านไปหลายเดือน ผมกับพี่เซนทำตัวเหมือนคนเป็นแฟนกัน แต่ไม่เคยพูดว่าเราเป็นแฟนกัน








      -LINE-

      แฮร์รี่อยู่หอมั้ย?  พี่ซื้อขนมมาฝากเดี๋ยวเอาไปให้
      อยู่ครับพี่เซน
      งั้นเดี๋ยวพี่ไปหานะ  กินข้าวรึยัง?
      ยังไม่กินเลย  พี่เซนซื้อของกินมาด้วยได้ป้ะ เอามากินที่หอแฮร์รี่
      ได้ๆเดี๋ยวพี่ซื้อเข้าไปให้นะ

       

       

      พี่เซนซื้อพิซซ่ามาพร้อมกับขนมที่จะเอามาฝากตั้งแต่แรก

      ขณะที่นั่งกินพิซซ่ากันอยู่ เสียงโทรศัพท์พี่เซนก็ดังขึ้น


      ลู ว่าไงวะ?
      กูอยู่หอแฮร์รี่”
      “เออน่าๆ เรื่องของกู”
      “โทรมามีไรมั้ยเนี่ย?”
      “เคๆ ค่อยคุยกัน”

       


      ผมได้ยินแค่เสียงพี่เซนแต่ไม่รู้ว่าปลายสายนั้นพี่ลูพูดอะไร 
      พอกินเสร็จเราก็ไปนอนดูหนังกันบนเตียง ผมวางหมอนลงบนตักพี่เซนแล้วค่อยๆเอนหัวลงแนบกับหมอนใบนั้น   ซักพักผมก็เผลอหลับไปในอ้อมแขนของพี่เซนที่นั่งพิงหัวเตียงอยู่
      ผมรู้สึกตัวอีกทีก็เหมือนมีอะไรอุ่นๆประทับลงที่หน้าผากก่อนที่ผมจะค่อยๆลืมตาตื่น
      เห็นพี่เซนนั่งนิ่งสายตาจ้องไปที่จอทีวีโดยที่แขนยังโอบรอบตัวผมอยู่ 
      พอพี่เซนจะกลับ ผมก็เดินไปส่งที่ประตูห้อง



      “ขอหอมแก้มหน่อยดิ” พี่เซนดึงผมเข้าไปใกล้
      “พี่เซนนน เราไม่ได้เป็นแฟนกัน” ผมก็ต้องมีเล่นตัวบ้าง แต่แอบจูบหน้าผากเมื่อกี้คิดว่าไม่รู้หรอ หึหึ
      “อือ ไม่หอมก็ได้ อ้วนเอ้ยย” พี่เซนพูดพร้อมหยิกแก้มผมเบาๆ ผมรีบผลักให้พี่เซนเดินออกจากห้องเป็นการแก้เขิน
       


      .
      .
      .






      -LINE-

      พี่เซนพาเค้าไปซื้อของหน่อยสิ
      พี่ไม่ว่างครับ
      ทำอะไรอ่ะ?
      อยู่กับเพื่อน
      โอเค งั้นแฮร์รี่ไปเองก็ได้

       

       


                วันนี้ผมรู้สึกแปลกๆ ตลอดเวลาที่นั่งเรียนด้วยกัน  พี่เซนแทบจะไม่คุยกับผมเลย แทบจะไม่มองหน้าผมเลยด้วยซ้ำ  พอหมดเวลาเรียนพี่เซนก็ชวนพี่ลูเดินออกจากห้องไปเลยโดยไม่ได้กล่าวลาผมซักคำ   ผมไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น   ผมทำอะไรให้พี่เซนไม่พอใจหรือเปล่า?  อยู่ๆทำไมกลับทำเย็นชาใส่ผมแบบนี้   ผมรู้สึกแย่มากๆแต่ก็ไม่ได้แสดงออกอะไรมากมายนักเพราะกลัวพี่จะเซนรำคาญ

       




       

      -LINE-

      พี่เซน แฮร์รี่อยากดูหนัง
      แต่พี่ไม่อยากดู
      พี่เซนเปลี่ยนไปนะเดี๋ยวนี้อ่ะ
      พี่เปลี่ยนตรงไหน?
      เมื่อก่อนพี่เซนใจดีกว่านี้
      พี่ก็ต้องมีเวลาส่วนตัวบ้างนะแฮร์รี่
      อืม

       

       


      ผมรู้สึกได้ว่าเดี๋ยวนี้พี่เซนไม่เหมือนเดิม  พี่เซนพยายามตีตัวออกห่างจากผมไป  เราไม่ได้ไปไหนมาไหนด้วยกันเกือบเดือนแล้ว  ผมสับสนและไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นระหว่างเรากันแน่ ผมไม่สามารถเรียกร้องหรือโวยวายอะไรได้มากนัก  เพราะผมกับพี่เซนไม่ได้เป็นอะไรกัน ยังคงใช้สถานะพี่น้องที่สนิทกัน  ผมอึดอัดแต่ก็ไม่รู้จะทำยังไง  ผมคิดถึงคำพูดของเลียม ผมคิดถึงไนออล..

       

       
       


      ผมรู้ตัวเองดีว่าวันนี้ผมมาเรียนด้วยสีหน้าที่ไม่สดใสเท่าไหร่นัก  เลียมกับไนออลก็รู้ดีว่าเกิดอะไรขึ้นกับผมเพราะผมไม่เคยมีความลับกับเพื่อนสองคนนี้
      วันนี้ผมสังเกตุเห็นว่ามีผู้ชาย
      2คนเดินมาพร้อมๆกับไนออลและเลียม

      ไนออลนั่งลงข้างผมพร้อมกับตบไหล่ผมเบาๆเพื่อแสดงถึงความห่วงใย เลียมก็เช่นกัน
      ผู้ชายสองคนนั้นเลือกที่นั่งติดกับไนออล

      “แฮซ เลียม นี่ลูค แฟนกูนะ เรียนปี เหมือนเราแต่ต่างคณะผมกับเลียมยิ้มอย่างเป็นมิตรให้ลูค
      “นี่ก็แอชตัน เพื่อนลูค” ผมกับเลียมก็หันไปยิ้มให้แอชตันเช่นกัน

      .
      .
      .


       

      “เรียนเสร็จเราไปหาอะไรอร่อยๆกินกันดีป้ะ?” ไนออลถามขึ้น
      “เออดีดี กินไรดีหยอง?” เลียมถามพร้อมเหวี่ยงแขนมาคล้องคอผม
      “กูกินไรก็ได้  ไม่ค่อยหิว” ผมตอบผ่านๆ
      “ชาบูชิมั้ย? กูอยากกิน” ไนออลเสนอความคิดเห็น
      “ได้ๆว่าไงก็ว่าตามกัน กูได้หมด” เลียมตอบรับ


      เราทั้ง 5 คน นั่งกินไปเรื่อยๆคุยกันไปเรื่อยเปื่อย  ไนออลนั่งข้างลูคป้อนกันอย่างสวีทหวาน ส่วนผม แอชตัน เลียม นั่งฝั่งตรงข้ามกับสองคนนั้น  โดยมีผมนั่งตรงกลาง ระหว่างที่กินแอชตันก็หยิบอาหารให้ผมเป็นระยะๆ คุยกันไปเรื่อยๆแล้วอยู่ๆแอชตันก็ถามผมด้วยคำถามที่คาดไม่ถึง

      “แฮร์รี่มีแฟนรึยัง?”

      ผมก็ไม่รู้ว่าตัวผมเองมีแฟนหรือยัง ไม่รู้จะตอบว่ายังไง แต่จริงๆผมก็ไม่ได้ใช้สถานะแฟนกับใคร

      “มันยังไม่มีหรอกแอช  จีบมันเลยๆๆ เราเชียร์ๆๆ” เลียมพูดติดตลก

      ผมผลักเลียมอย่างแรงเป็นการแก้เขิน แอชตันยิ้มกว้างขณะที่มองผมกับเลียมกำลังหยอกล้อกัน

       

       

      ก่อนจะแยกย้ายกันกลับ แอชตันก็ขอเบอร์โทรผม ผมก็ให้ไปแบบไม่ได้คิดอะไร
      หลังจากนั้นแอชตันก็ไลน์มาคุยกับผมตลอด ผมยอมรับว่าแอชตันเป็นคนดีนะ เทคแคร์ผมเป็นอย่างดี  แต่ทำไมผมคิดถึงพี่เซนตลอดเวลา  คิดว่าถ้าคนที่มาดูหนังกับเราตอนนี้เป็นพี่เซนก็คงดี ถ้าคนที่พาเรามากินข้าวตอนนี้เป็นพี่เซนก็คงดี  ผมพยายามรักษาระยะห่างกับแอชตันให้เป็นแค่เพื่อนทั่วไปเพราะผมยังไม่อยากดึงใครเข้ามาเกี่ยวข้องกับความสับสนของผมเอง

      .
      .
      .


       


      วันนี้เป็นวันสุดท้ายของการเรียนสำหรับวิชาที่หินสุดในภาคเรียนนี้แล้ว 
      ผมพยายามทำเป็นไม่สนใจพี่เซน   ในเมื่อเขาไม่ได้แคร์เราแล้วทำไมเราต้องสนใจอะไรเขาด้วย   ผมได้แต่บอกตัวเองแบบนี้ตลอดเวลาที่พี่เซนหายเงียบไป  ระหว่างนั่งเรียนผมไม่ได้ทักทายพี่เซนกับพี่ลูเลยแม้แต่คำเดียว  ผมอยากให้หมดเวลาเรียนเร็วๆจัง  ผมไม่อยากทนในสถานการณ์ที่อึกอัดแบบนี้  



      พอหมดเวลาเรียนผมกับเพื่อนๆก็เดินออกจากห้องเรียนทันที  
      ลูคมารอรับไนออลที่หน้าห้องเรียนและแน่นอนว่าแอชตันก็มาด้วย
      แอชตันเดินตรงมาหาผมทันทีที่เห็นผมเดินพ้นประตูห้องเรียนออกมา
      พี่ลูมองผมด้วยความสงสัยแต่ผมก็รีบคว้าแขนแอชตันแล้วเดินจากมาอย่างรวดเร็ว
      พยายามที่จะไม่สนใจพี่เซนที่ยืนอยู่ระหว่างทางเดิน

       

       

       

      ตั้งแต่เซนรู้ตัวว่ารู้สึกกับแฮร์รี่มากเกินไปกว่าที่เคยรู้สึกกับคนที่ผ่านๆมา
      เซนไม่สามารถห้ามความรู้สึกตัวเองได้เลยเวลาได้อยู่ใกล้แฮร์รี่
      เซนไม่เคยตามใจใครเท่าแฮร์รี่ เพราะที่ผ่านมาเซนคิดว่าถ้ายอมมากจนเกินไปจะทำให้
      อีกฝ่ายได้ใจและเป็นคนคุมเกมส์ทั้งหมดในการคบหากันซึ่งมันไม่ใช่วิถีของเซน 
      เซนจึงพยายามรักษาระยะห่างกับแฮร์รี่เพราะคิดว่ามันจะช่วยให้ความรู้สึกที่มีต่อแฮร์รี่นั้นจางลงได้   แต่วันนี้เซนได้เห็นภาพบาดตาที่แฮร์รี่จับมือผู้ชายคนอื่นต่อหน้าต่อตาเขาแล้วเดินจากไปแบบไม่ใยดี 


      แฮร์รี่เคยแคร์ความรู้สึกพี่บ้างหรือเปล่า?  เซนได้แต่คิดในใจ

       





       

      -LINE-

      ใครมาหาตอนเลิกเรียน
      เพื่อน
      เพื่อนทำไมต้องจับมือกัน
      พี่เซนเป็นอะไรเนี่ย? แฮร์รี่ไปจับมือใครเมื่อไหร่  แอชตันเป็นแค่เพื่อน
      อ๋อ ชื่อแอชตันสินะ ถ้าเป็นเพื่อนจริงทำไมพี่ไม่เคยรู้จัก
      เพื่อนใหม่เพิ่งรู้จักกัน แฮร์รี่จำเป็นต้องบอกพี่เซนทุกอย่างหรอในเมื่อพี่เซนไม่ได้แคร์อะไรอยู่แล้ว
      แฮร์รี่อย่างอแงน่ะ
      ไม่ได้งอแง ก็พี่เซนไม่แคร์แฮร์รี่แล้ว พี่เซนคงมีคนอื่นให้แคร์แล้วใช่มั้ย?

      ทำไมชอบคิดไปเองเป็นเด็กๆ
      ใช่  แฮร์รี่ก็แค่เด็กเอาแต่ใจคนนึงที่พี่เซนไม่สนใจแล้ว
      ห้ามไปไหนกับผู้ชายคนนั้นอีก พี่ไม่อยากให้ไป
      พี่เซนมีสิทธิ์อะไรมาห้าม
      ‘……..’
      คนเป็นพี่น้องกันเขาไม่ห้ามหรอกถ้าน้องกำลังจะมีแฟน
      แฮร์รี่!!
      แฮร์รี่จะไปหาเพื่อน ค่อยคุยนะพี่เซน






      ผมพยายามอย่างมากที่จะไม่ใจอ่อนกับผู้ชายคนนี้ ผมกลัวเจ็บ


      หลังจากคุยไลน์กับพี่เซนเสร็จ  ผมก็โทรหาไนออล

      “ไนล์ มึงมาหากูหน่อยได้มั้ย?” ผมพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ
      “มึงเป็นไรป่ะแฮซ?  ใจเย็นๆ” ไนออลตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงเป็นกังวล
      “มึงมาหากูหน่อยไนล์”  ผมพูดซ้ำประโยคเดิมโดยไม่ได้ตอบอะไร
      “เออๆเดี๋ยวกูจะออกไปเดี๋ยวนี้แหละ ใจเย็นๆ”

       


      ไม่นานนักไนออลกับเลียมก็มาถึงพร้อมกับกล่องไก่ทอด

      “มึงกินอะไรบ้างมั้ยเนี่ย?  พวกกูซื้อไก่ทอดมาให้  เผื่อหิว”
      เลียมพูดพร้อมวางกล่องไก่ทอดบนโต๊ะ

      “กูกินไม่ลง ไม่อยากกินอะไร”
      เลียมกับไนออลมองหน้ากันด้วยสีหน้าเป็นกังวลเมื่อได้ยินคำตอบของผม

      “พร้อมจะเล่าเมื่อไหร่ก็ว่ามานะ พวกกูจะอยู่เป็นเพื่อนมึงเอง”
      ไนออลพูดขณะที่นั่งลงบนเตียง

      “ขอบใจว่ะ”

       

       


      เมื่อผมตั้งสติได้และพร้อมที่จะเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เพื่อนทั้งสองของผมฟัง
      ผมก็เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นอย่างละเอียด พี่เซนเหมือนจะแคร์ผมมากๆในช่วงแรก
      ตามใจผมตลอด แต่ช่วงหลังๆผมไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นทำให้พี่เซนตีตัวออกห่างผมไป
      ทำเหมือนไม่แคร์ผมเลย  แต่พอเห็นผมกับแอชตันก็ยังจะห้ามผมไม่ให้ไปไหนกับแอชตัน



      “กูว่าพี่แกแค่หวงก้างรึเปล่า?” ไนออลออกความคิดเห็นหลังจากฟังจนจบ
      “มันเข้าสเต็ปทุกอย่างที่กูเคยได้ยินมาเกี่ยวกับพี่เซน” เลียมพูดเสริม
      “แล้วกูต้องทำยังไง? กูว่ากูชอบพี่เขาไปแล้ว” ผมตอบด้วยน้ำเสียงเหนื่อยล้า
      “มึงต้องทำใจ” เลียมตอบแบบไม่ต้องเสียเวลาคิด

       

       


      คืนนี้เลียมกับไนออลจะนอนเป็นเพื่อนผมเพราะไม่อยากให้ผมอยู่คนเดียว กลัวผมคิดฟุ้งซ่าน  ขณะที่ผมกำลังเตรียมตัวเข้านอน  หน้าจอโทรศัพท์มือถือของผมก็สว่างจ้าแสดงข้อความใหม่จากไลน์  ผมรีบหยิบขึ้นมาดูและต้องแปลกใจที่มันเป็นข้อความจากพี่ลู





      -LINE-

      น้องแฮร์รี่  นี่พี่ลูนะ
      ครับพี่ลู
      นอนรึยังเนี่ย พี่กวนรึเปล่า?
      ไม่ครับพี่ลู มีอะไรรึเปล่า
      เรื่องเซน เซนมันเป็นอะไร
      ทำไมเหรอพี่'

      มันมาหาพี่ตั้งแต่ช่วงเย็น  แต่นั่งเงียบไม่เห็นพูดอะไร

      แฮร์รี่ไม่รู้หรอกพี่ลู
      ทะเลาะกันเหรอ?
      ไม่ได้ทะเลาะพี่ลู  ไม่มีอะไรต้องทะเลาะ
      บอกพี่มาเถอะแฮร์รี่  พี่เป็นเพื่อนมันมาเกือบ 5 ปีแล้ว
      แฮร์รี่ไม่ได้สนิทกับพี่เซนเหมือนเมื่อก่อนแล้ว แฮร์รี่ไม่รู้พี่เซนเป็นอะไร อยู่ๆพี่เซนก็เปลี่ยนไป
      แล้วแฮร์รี่รู้สึกยังไงกับมัน?
      แฮร์รี่ไม่กล้าบอกหรอก แฮร์รี่กับพี่เซนเราไม่ได้เป็นแฟนกัน พี่เซนไม่เคยบอกว่าชอบแฮร์รี่”

      งั้นพี่จะบอกเอง  มันชอบแฮร์รี่  ชอบมากด้วย

      ไม่จริง  พี่เซนไม่ได้แคร์แฮร์รี่แล้ว
      มันไม่เคยเป็นแบบนี้
      แต่พี่เซนไม่เคยบอกชอบแฮร์รี่
      มันกลัวเจ็บไง มันเลยไม่กล้าจริงจังกับใคร พอมันรู้สึกกับใครมากๆมันจะไม่แสดงออกอะไรเลย มันบอกว่ากลัวคนๆนั้นได้ใจ แล้วก็ใช้ความรู้สึกของมันเป็นเครื่องต่อรองในการทำอะไรหลายๆอย่าง
      พี่ลูรู้ได้ยังไงล่ะว่าพี่เซนชอบแฮร์รี่มาก
      ก็มันไม่เคยขึ้นหอใครนอกจากหอพี่ มันไม่เคยตามใจใครเท่าแฮร์รี่
      รู้ได้ยังไงว่าพี่เซนเคยมาหอแฮร์รี่?
      ก็ตอนนั้นพี่โทรหามัน มันบอกอยู่หอแฮร์รี่ กับแฮร์รี่มันไม่เหมือนกับคนที่ผ่านๆมานะ
      แฮร์รี่เชื่อพี่นะ ถึงมันจะเคยคุยกับใครมาเยอะก็จริงแต่มันไม่เคยยอมใครได้นานขนาดนี้

       

       

       


      พี่ลูเงียบไปจากการคุยไลน์ซักพักโทรศัพท์ผมก็ดังขึ้น 



      *P’Lou*

      ผมหันมองหน้าเลียมและไนออลอย่างสับสน ไนออลพยักหน้าเป็นเชิงบอกให้รับสาย

      “ฮัลโหลพี่ลู”
      “.........”
      “พี่ลู  ได้ยินมั้ย?”
      “แฮร์รี่” ปลายสายไม่ใช่เสียงพี่ลู
      “พี่เซน?” ผมแปลกใจที่คนปลายสายเป็นพี่เซน

      “พี่อยากคุยด้วย”
      “ก็คุยมาเลย แฮร์รี่ก็เบื่อกับความสับสนที่พี่เซนทำกับแฮร์รี่” ผมพูดด้วยน้ำเสียงไม่ค่อยพอใจนัก
      “พี่ขอโทษ” ปลายสายพูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา
      “แค่นี้หรอ?” ผมถามน้ำเสียงเรียบ
      “พี่.. พี่ไม่อยากเห็นแฮร์รี่อยู่กับคนอื่นที่ไม่ใช่พี่”
      “พี่เซน  แฮร์รี่บอกแล้วว่าพี่เซนไม่มีสิทธิ์มาห้าม  พี่เซนไม่ได้เป็นแฟนแฮร์รี่”
      “ไม่ใช่พี่ไม่อยากเป็นแฟนแฮร์รี่”
      “.........” พี่เซนจะมาล้อเล่นอะไรกับหัวใจของผมอีก

      “พี่แคร์แฮร์รี่มากรู้มั้ย?” 

      “ไม่รู้”  ผมรู้สึกสับสนและหงุดหงิดในเวลาเดียวกัน
      “แล้วที่ผ่านมาที่พี่ทำทั้งหมด ไม่เรียกแคร์แล้วเรียกอะไร?” 
      “แต่อยู่ๆพี่เซนก็หายเงียบไป” 
      “พี่แค่ไม่อยากรู้สึกกับแฮร์รี่มากไปกว่านี้ พี่ไม่อยากเจ็บ”
      “ทำไมต้องกลัวเจ็บ?”  
      “เพราะพี่เคยเจ็บ” 
      “แล้วที่พี่เซนทำ ไม่คิดว่าแฮร์รี่เจ็บหรอ?” ผมพูดสวนกลับและรู้สึกได้ถึงขอบตาที่ร้อนผ่าว
      “พี่ขอโทษ”
      “พอเหอะพี่เซน แฮร์รี่เหนื่อย” ผมพยายามพูดด้วยน้ำเสียงปกติที่สุด

       



       


      ก๊อกๆๆๆ เสียงเคาะประตูดังขึ้น ผม ไนออล เลียม มองไปที่ประตูด้วยความสงสัยว่าใครมาเอาป่านนี้

      “มึงคุยไป  เดี๋ยวกูไปเปิด” เลียมอาสาไปเปิดประตู


      เสียงปลายสายเงียบไปโดยไม่มีสาเหตุ
      เลียมส่องตาแมวที่ประตูก่อนจะแสดงสีหน้าแปลกใจเล็กน้อยแล้วมองมาทางผม ก่อนจะเปิดประตู
      ผมเบิกตากว้างเมื่อเห็นคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าประตู  พี่เซน มาพร้อมกับพี่ลูที่ยืนอยู่ด้านหลัง
      ไนออลกระโดดออกจากเตียงทันทีที่เห็นคนตรงหน้าประตู



      “เดี๋ยวพี่กับเด็กๆไปหาไรกินข้างล่างก่อนนะ” พี่ลูพูดขึ้นพร้อมกับพยักหน้าเป็นสัญญาณบอกเลียมกับไนออลให้ออกจากห้องนี้ไปด้วยกัน

       

       

       


       

       


      “แฮร์รี่” พี่เซนพูดขึ้นทำลายความเงียบในห้องที่มีแค่เราสองคน
      “......”
      “โกรธพี่มากมั้ย?” พูดพร้อมกับเดินเข้ามาใกล้ผมที่นอนอยู่บนเตียง
      “แฮร์รี่ไม่ได้โกรธพี่เซน” ผมลุกขึ้นนั่งบนเตียงเพื่อเผชิญหน้ากับคนที่เดินเข้ามา
      “ยกโทษให้พี่นะ  พี่คิดถึงแฮร์รี่” พูดเสียงสั่นนัยต์ตาเศร้าพร้อมกับจับมือผมและบีบมือผมแน่น
      “ทำไมต้องทำให้เรื่องมันยุ่งยากด้วย เคยชอบแฮร์รี่บ้างรึป่าว หรือแค่ทำเหมือนที่เคยทำกับคนอื่น?”  ผมสบัดมือพี่เซนออกทันที
      “พี่..  พี่ชอบแฮร์รี่มาก” ผมอึ้งกับคำตอบของพี่เซนไปชั่วขณะหนึ่ง

       “แต่แฮร์รี่มีแฟนแล้ว  มันสายไปแล้วพี่เซน” ผมแกล้งพูดเพื่อยั่วโมโหพี่เซน

      “ไม่จริง แฮร์รี่จะมีแฟนได้ยังไง ถ้ามีก็ต้องเป็นพี่” พี่เซนเริ่มหัวเสีย
      “ก็พี่เซนไม่เคยขอแฮร์รี่เป็นแฟนเลย” ผมยังคงพยายามพูดด้วยน้ำเสียงนิ่ง
      “แฮร์รี่ต้องเป็นแฟนพี่ ไม่ใช่คนอื่น” เสียงพี่เซนเริ่มดังขึ้นจนผมเริ่มกลัว
      “ก็พี่เซนยังไม่เคยขอแฮร์รี่เป็นแฟน”
      “งั้นมาเป็นแฟนพี่เดี๋ยวนี้
      !!” พี่เซนพูดสวนขึ้นทันที





      ผมเงียบไปชั่วขณะ ซ่อนสีหน้าอมยิ้มจากคนตรงหน้า ก่อนจะเงยหน้าขึ้นสบตาแล้วหัวเราะออกมาอย่างพอใจ

      “ไอ้หนวด ติดกับจนได้ พูดออกมาจนได้ ฮ่าๆๆๆ”
      สีหน้าพี่เซนสับสนเล็กน้อยก่อนจะเปลี่ยนจากกำลังโมโหกลายเป็นอมยิ้มน้อยๆ

      “ไอ้อ้วนหัวหยองเอ้ยยย” พูดก่อนจะถลาเข้ากอดผมที่นั่งอยู่บนเตียง

      “พี่เซนนนน จูบเค้าหน่อยยยย”
      ผมยื่นแขนออกไปโอบเอวคนที่ยืนอยู่ขอบเตียงเข้ามาใกล้แล้วเงยหน้ายื่นปากจู๋หาพี่เซน

      “ไม่ ทีตอนนั้นขอหอมแก้มทำไมไม่ให้ล่ะ” พี่เซนแกล้งหันหน้าหนีไปทางอื่น
      “ก็ตอนนั้นยังไม่ได้เป็นแฟนกันป้ะ? อีหนวด” ผมหน้ามุ่ย
      “แล้วตอนนี้ล่ะ?” พี่เซนถามพร้อมกับยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์
      “น้องแฮร์รี่คนน่ารักเป็นแฟนพี่เซนหน้าหนวดแล้วจ้า”
      ผมตะโกนขึ้นเสียงดังจนพี่เซนต้องรีบเอามือมาปิดปากผมไว้  พี่เซนนั่งลงบนเตียงแล้วใช้แขนอีกข้างที่ยังว่างโอบรอบเอวผม ดึงผมเข้าไปใกล้แล้วกระซิบข้างหู
      “ทำไมถึงชอบทำตัวน่ารักแบบนี้อยู่เรื่อยเลย ห้ามไปทำตัวขี้อ้อนแบบนี้กับคนอื่นเข้าใจมั้ย?”
      “ไม่ทำกับคนอื่นหรอก แฮร์รี่จะทำตัวน่ารักแบบนี้กับพี่เซนคนเดียว” ผมเงยหน้ามองคนที่สวมกอดผมอยู่ด้วยรอยยิ้มแห่งความสุข
      “ดีมากเด็กดี” พูดจบก็กดจูบลงบนหน้าผากของผมอย่างอ่อนโยน

       

       

       

       


      “ฮัลโหลลู  มึงกลับได้เลยนะไม่ต้องรอกู บอกเลียมกับไนออลด้วยว่ากลับไปได้เลยคืนนี้แฮร์รี่มีเพื่อนนอนแล้ว ไม่ต้องอยู่นอนเป็นเพื่อนมันแล้ว”  ลูอีวางสายพร้อมกับรอยยิ้มกรุ้มกริ่มบนใบหน้า ก่อนจะบอกกับเลียมและไนออลตามที่ปลายสายที่เพิ่งวางไปได้บอกมา




       

      - END -





       





       


      Writer talk :

      จบแล้วค่าาาา เป็นฟิคเรื่องแรกที่แต่งนะคะ แต่งแบบงูๆปลาๆไม่มีแบบแผนอะไรเลย  แค่มีพล็อตเรื่องในหัวแล้วก็เขียนออกมาเป็นภาษาบ้านๆไม่ซับซ้อนอะไรมาก  เนื้อเรื่องก็ออกแนวใสๆตามสไตล์คนเขียน  5555555555555555555

      หวังว่าทุกคนคงมีความสุขกับการอ่านนะคะ

      ชอบหรือไม่ชอบยังไงสามารถติชมได้นะคะไม่ว่ากัน  หรือคอมเม้นท์เป็นกำลังใจก้ได้จ้าาา


       

       

       


      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×